วิธีแก้ Alternate page with proper canonical tag บน Search Console

สวัสดีครับชาว Web Marketing & SEO วันนี้ผมจะมาแชร์วิธีแก้ปัญหาที่หลายคนเจอใน Google Search Console นั่นคือ "Alternate page with proper canonical tag" ครับ

ผมจะสมมติเว็บในตัวอย่างคือเว็บ contentmastery.io ของผมเองละกัน เมื่อลองเช็คใน Google Search Console มีหน้าเว็บถึง 48 หน้าที่ไม่ถูก index เพราะปัญหานี้ มาดูกันว่าเกิดจากอะไรและเราจะแก้มันยังไง

โดยเข้าไปที่ Indexing > Pages ได้เลยครับ 

Alternate page with proper canonical tag

ปัญหา "Alternate page with proper canonical tag" 

ปัญหานี้เกิดเมื่อ Google พบว่ามีหน้าเว็บ 2 หน้าที่มีเนื้อหาเหมือนกันหรือคล้ายกันมาก แต่ URL ต่างกัน และแม้ว่าเราจะตั้ง canonical tag ไว้แล้ว แต่ Google ก็ยังมองว่าเป็นหน้าแยกกัน

ในกรณีของผม ปัญหาอยู่ที่

• https://contentmastery.io/ (non-www)

• https://www.contentmastery.io/ (www)

ทั้ง 2 URL สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งนี่แหละครับคือต้นเหตุของปัญหา

เข้าถึงได้น่ะโอเครและถูกต้องแล้วครับ แต่พอเวลาเปิดอีกเวอร์ชั่น เช่น ผมเปิดที่เป็น www เวอร์ชัน มันควร redirect ไปที่ non-www เวอร์ชัน ที่ผมกำหนดเป็น canonical หลัก (ซึ่งตอนนี้มันไม่ใช่แบบนี้ มันแยกกันเลย)

Canonical Issue ปัญหาคลาสสิคที่หลายคนเจอบ่อย

ทำไม Google ถึงมองว่าเป็นปัญหา?

แม้ว่าผมจะใส่ canonical tag ชี้ไปที่ URL หลักแล้ว แต่ถ้าทั้ง 2 URL ยังเข้าถึงได้ Google จะมองว่า

1. เป็นการสิ้นเปลืองรีซอร์สในการ crawl

2. อาจทำให้ link juice กระจายไปทั้ง 2 versions (ซึ่งไม่ควรเด้อ)

3. สร้างความสับสนว่า URL ไหนคือ URL หลักที่แท้จริง (ตามที่บอกไปด้านบนก่อนหน้า)

Google จึงเลือกที่จะไม่ index หน้าที่มองว่าเป็น "alternate page" แม้จะมี canonical tag ที่ถูกต้องก็ตาม 

Note: อันนี้ค่อนข้างเกี่ยวกับด้าน Technical มีอีกบทความแนะนำคือ Technical SEO เช็คลิสต์สำคัญปี 2025 ครับ

วิธีแก้ปัญหาแบบถาวร (Fix บน Web Server)

วิธีที่ดีที่สุดคือทำ 301 redirect จาก URL ที่ไม่ต้องการไปยัง URL หลัก ในกรณีนี้ผมเลือกใช้ non-www เป็นหลัก ดังนั้นต้อง redirect จาก www ไป non-www

สำหรับ Nginx (เว็บเซิร์ฟเวอร์นิยมสุดตอนนี้)

เราสามารถเพิ่ม (หรือให้ dev ของเราทำให้) โค้ดนี้ในไฟล์ nginx config ของเว็บ (ปกติอยู่ที่ /etc/nginx/sites-available/yourdomain ) ครับ

อันนี้สาย web dev นะครับ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ใช้เว็บสำเร็จรูป เช่น WordPress ผมก็คิดว่าน่าจะมีส่วนที่เป็น UI ที่สามารถปรับได้หรือเปล่านะ? แต่ว่าคอนเซ็ปต์ก็คือตามนี้เลยครับ เบื้องลึกเบื้องหลัง

server {
    listen 80;
    listen 443 ssl http2;
    server_name www.contentmastery.io;
    
    # SSL certificates (ถ้าใช้ HTTPS)
    ssl_certificate /path/to/ssl/cert.pem;
    ssl_certificate_key /path/to/ssl/key.pem;
    
    # Redirect ทั้งหมดไป non-www
    return 301 https://contentmastery.io$request_uri;
}

server {
    listen 80;
    server_name contentmastery.io;
    
    # Redirect HTTP to HTTPS
    return 301 https://contentmastery.io$request_uri;
}

สำหรับ Apache (.htaccess)

ถ้าใช้ Apache ให้ไปเพิ่มในไฟล์ .htaccess

RewriteEngine On

# Redirect www to non-www
RewriteCond %{HTTP_HOST} ^www\.contentmastery\.io [NC]
RewriteRule ^(.*)$ https://contentmastery.io/$1 [L,R=301]

# Redirect HTTP to HTTPS
RewriteCond %{HTTPS} off
RewriteRule ^(.*)$ https://contentmastery.io/$1 [L,R=301]

เสร็จแล้วตรวจสอบ Canonical Tag ให้ถูกต้อง

นอกจาก Redirect แล้ว ต้อง inspect ดู canonical tag ในหน้าเว็บเราด้วยครับ 

<link rel="canonical" href="https://contentmastery.io/" />

สำคัญเลยนะครับ URL ใน canonical tag ต้องตรงกับ URL ที่เราเลือกเป็นหลัก 100% รวมถึง

• Protocol (http vs https)
• www หรือ non-www
• Trailing slash (/) ท้าย URL

ขั้นตอนหลังจากแก้ไข

1. Restart Nginx/Apache หลังจากแก้ไข config

sudo nginx -t  # ทดสอบ config
sudo systemctl restart nginx